: 
หนังสือสำคัญยังไง ทำไมถึงต้องรับพิมพ์หนังสือ ในปี 2565
เรารับพิมพ์หนังสือทุกประเภท คุณรู้ไหมว่าหนังสือมันสำคัญอย่างไร แล้วมันทำยากง่ายแค่ไหน หนังสือคือสิ่งที่เป็นหัวใจของการเรียนรู้ ถ้าจะให้พูดอย่างนั้นก็คงจะไม่ผิด เพราะในหนังสือหนึ่งเล่มมักจะมีเรื่องที่เราไม่รู้อยู่หนึ่งเรื่องเสมอ นั่นเป็นเพราะว่าเราไม่สามารถที่จะรอบรู้ได้ในทุกๆ เรื่อง จึงทำให้เราสามารถหาความรู้จากหนังสือได้ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเราอ่านจบเล่มนึงก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้าใจมันทั้งหมด เมื่อเรากลับมาอ่านมันอีกรอบก็จะพบว่ายังมีอะไรหลายๆ อย่างที่เราเข้าใจมันไม่หมด ที่เขาเรียกกันว่าเก็บรายละเอียด แล้วเมื่อเราอ่านเล่มใหม่เราก็จะได้เรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ
ในหนังสือเล่มใหม่เสมอ บางเล่มอาจจะมีสาระอย่างมาก หรือบางเล่มอาจจะไม่มีสาระอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ถึงแม้จะเป็นหนังสือที่ไม่มีอะไรเลย แต่ในนั้นก็ยังมีเรื่องราวใหม่ๆ ที่คุณยังไม่ได้รู้ได้สัมผัสอยู่เสมอ นั้นทำให้เราเห็นได้ว่าหนังสือคือแหล่งความรู้มากมายมหาศาลขอเพียงแค่คุณหยิบมันขึ้นมาอ่านเท่านั้น
เมื่อหนังสือคือหนึ่งในสิ่งที่สำคัญทางความรู้ของโลกใบนี้ การจะทำหนังสือขึ้นมาสักเล่มนึงจึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและจะต้องให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนการทำ ในหนังสือหนึ่งเล่มจะประกอบไปด้วย ปกหน้า ปกหลัง สันหนังสือ เนื้อใน นี่คือส่วนสำคัญพื้นฐานที่หนังสือส่วนมากมักจะมี แต่ก็มีหนังสือบางประเภทที่ไม่มีสันหนังสือ
ถ้าจะถามว่ามีแบบไหนมั่งก็คงต้องอธิบายกันอย่างละเอียดเลยถึงจะเข้าใจ
หนังสือเย็บแม็ก หนังสือชนิดนี้มักจะจะมีความหนาไม่มากนัก เพราะถ้าหนามากเกินไปมันจะแข็งและไม่สามารถเย็บแม็กได้ ด้วยความที่มันไม่หนามากจึงทำให้มันเหมาะกับหนังสือจำพวก แคตตาล็อก ที่มีจำนวนหน้าไม่มากนัก หรือหนังสือที่มีจำนวนหน้าไม่ถึง 100 หน้า จะมีลักษณะเป็นกระดาษขนาดใหญ่กว่าหนังสือจริง 2 เท่าแล้วนำมาพับครึ่งแล้วเย็บแม็กที่ตรงกลางเล่ม ข้อดีคือเบาและสามารถกลางหนังสือออกได้อย่างอิสระ แต่ข้อเสียก็คือถ้าเปิดอ่านหลายๆ ครั้งก็จะทำให้ตรงจุดที่เย็บแม็กเปลื่อยขาดแล้วหลุดออกเป็นแผ่นๆ ได้ โดยเฉพาะส่วนปก
หนังสือไสกาว เป็นหนังสือที่มีอยู่เยอะมากเรียกได้ว่าไปที่ไหนก็เจอ เพราะหนังสือไสกาวเป็นที่นิิยมมาก อาจเพราะมันมีความคงทนกว่าหนังสือเย็บแม็กถ้าร้านรับทำเขาทำแบบไม่ชุ่ย
มันจะทนทานมากระดับนึงเลย และด้วยที่ว่าหนังหสือไสกาวสามารถทำในจำนวนหน้าที่เยอะเกิน 100 หน้าได้ จึงทำให้มีการทำหันงสือไสกาวมากกว่าเย็บแม็ก เพราะจำนวนของหนังสือที่มีจำนวนหน้า
ไม่ถึง 100 หน้ามีน้อยกว่ามาก ถึงแม้จะมีความทนมากกว่าแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสีย เพราะหนังสือไสกาวจะเปิดกางออกไม่มากเท่าเย็บแม็กเพราะมันติดตรงที่สันที่มีขนาดใหญ่
จึงทำให้ถูกกินพื้นที่บริเวณสันหนังสือที่กางออกไม่ได้ และถ้าร้านที่รับทำหนังสือไสกาวเข้าเล่มไม่ดีพออาจเพราะใส่กาวน้อยไปหรือเข้ากระดาษไม่ลึกพอ ก็จะทำให้หน้าหนังสือบางแผ่นหลุดออกจากสัน
เหมือนที่เราเคยเห็นๆ กันในหนังสือแบบเรียนตอนเด็กๆ นั้นเอง
หนังสือเข้าเล่มห่วงกระดูกงู เป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุด ข้อดีคือมีความสวยงามอย่างมาก และเวลาเปิดออกจะสามารถเปิดได้ถึง 360 องศา และมีความคงทนสูงมาก แต่ข้อเสียคือมันมีราคาเข้าเล่มที่สูงมากกว่า การเย็บแม็กหรือไสกาว จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมในการทำหนังสือจำนวนมาก ที่มีต้นทุนไม่สูงนัก
หนังสือเย็บด้าย โดยรูปแบบแล้วจะเหมือนกับหนังสือเย็บแม็กทุกประการแตกต่างกันที่ตอนที่เย็บเข้าเป็นเล่มจะไม่ได้ใช้แม็กเย็บตรงกลาง แต่จะใช้เป็นด้ายเย็บยาวตลอดแนวสันหนังสือแทน
หนังสือเย็บกี่ไสกาว คือส่วนผสมของหนังสือเย็บด้ายรวมกับหนังสือไสกาวโดยขั้นตอนการทำนั้นคือจะนำกระดาษหน้าหนังสือที่พิมพ์แล้วจำนวนหนึ่ง มาทำการพับครึ่งเหมือนกับเย็บด้ายให้มีลักษณะเหมือน หนังสือเย็บด้าย ที่ยังไม่มีปก แต่ตรงส่วนนี้เราจะเรียกมันว่ากี่ เมื่อเราทำครบทุกกี่แล้ว ก็นำกี่ทั้งหมดมาเรียงแล้วเข้าปกโดยวิธีไสกาว เหมือนหนังสือไสกาว เราจึงเรียกมันว่า หนังสือเย็บกี่ไสกาว
หนังสือปกแข็งเข้าเล่มเย็บกี่ ถ้าใครนึกภาพไม่ออกให้นึกถึงหนังสือเล่มหนาปกหนาๆ ที่เรามักจะเห็นในห้องสมุดในหนังของต่างประเทศ
การทำหนังสือแบบนี้จะมีความทนทานสูงที่สุดเพราะ ถูกห่อหุ้มด้วยกระดาษปกแข็งที่หนามากๆ และมีการเย็บกี่เข้าเล่มหนังสือที่แข็งแรงไม่มีทางที่หน้าหนังสือจะหลุดออกมาเป็นแผ่นๆ
เหมือนหนังสือไสกาวธรรมดาอย่างแน่นอนข้อดีมีมากมายเต็มไปหมดแต่ก็มีข้อเสียอยู่อย่างนึงคือราคาในการทำค่อนข้างที่จะสูง เพราะมีขั้นตอนการการทำซับซ้อนหลายขั้นตอน
จึงมีต้นทุนในการทำที่สูงขึ้นตามไปด้วย
โรงพิมพ์หนังสือของเรารับพิมพ์หนังสือ รับทำหนังสือราคาถูก โดยใช้การพิมพ์ด้วยระบบ offset เป็นการพิมพ์ที่โรงพิมพ์ส่วนมากนิยมใช้กัน การพิมพ์ด้วยระบบ offset เป็นการพิมพ์ที่มีคุณภาพสูงแล้วงานออกมาสีก็จะใกล้เคียงกับตัวอย่างจะบวกลบไม่เกิน 10% และถ้าเรามีการพิมพ์ที่จำนวนที่เยอะมากๆก็ยิ่งคุ้มเพราะช่วยลดต้นทุนในการพิมพ์ได้
หนังสือเป็นสิ่งที่อยู่ด้วยกันกับชีวิตผู้คนมานาน เป็นได้ทั้งสิ่งให้ความบรรเทิง เป็นทั้งสิ่งให้ความรู้ เป็นได้ทั้งเกมส์ เป็นทั้งบททดสอบต่างๆ แม้กระทั้งเป็นของสะสม โดยทั่วหนังสือ จึงนับได้ว่าเป็นสิ่งที่ควบคู่กับชีวิตของเรามานาน ถ้านับกันจริงๆ หนังสือเริ่ม มีส่วนร่วมกับเรา ตั้งแต่เรายังเด็กเลยด้วยซ้ำ พ่อแม่บางคนอาจจะเอาหนังสือเด็กที่มีแต่รูปภาพมาให้เราดู และถึงแม้จะเป็นการพิมพ์หนังสือ โดยที่มีแต่รูปภาพก็ตาม แต่มันก็นับได้ว่าเป็นหนังสือประเภทหนึ่งเหมือนกัน และเมื่อคุณเริ่มโตขึ้นมา คุณก็เริ่มเขาเรียน คุณครูของคุณก็จะเริ่มเอาหนังสือแบบฝึกหัด หัดเขียนต่างๆ มาให้คุณได้ฝึกเล่นฝึกเขียน ฝึกจับดินสอ และพอคุณเริ่มโตขึ้นมาหน่อยคุณก็จะเริ่มหัดอ่าน ก กา พอคุณเริ่มอ่านหนังสือได้ ก็จะมีหนังสือเรียนที่จะให้คุณ ทำการคิดเลข อ่านกลอน ศึกษาประวัติศาสตร์ ศึกษาศาสนา ศึกษาการออกกำลังกาย ศึกษาการทำอาหาร ศึกษาการวาดภาพ และอีกเยอะแยะนับไม่ถ้วน
ทั้งๆ ที่ในชีวิตประจำวันของเรา เราคิดว่าหนังสือไม่สำคัญ และเราแทบจะไม่ได้ใช้หนังสือเลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ชีวิตเราเกือบทุกๆ คน ล้วนแล้วแต่ใช้ชีวิตกับหนังสือมาตลอดเกือบทั้งชีวิต
หนังสือยังเป็นของสะสมของใครบางคน เป็นสิ่งเตือนความทรงจำ เป็นของขวัญ เป็นที่เก็บรวบรวมเรื่องราวต่างในชีวิตของใครบางคน เป็นของบูชา และเป็นมากกว่าแค่กระดาษหลายๆ แผ่นมารวมกัน
คุณลองนึกภาพดูนะครับถ้าโลกของเราไม่มีหนังสือ ไม่มีการเก็บบันทึกเรื่องราวต่างๆ ไม่มีการถ่ายทอดความรู้ผ่านหนังสือ ไม่มีสิ่งที่ใช้ฝึกให้คนรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ วิธีการต่างๆ ของคนรุ่นก่อน โลกของเราจะเป็นยังไง มนุษย์จะใช้ชีวิตอยู่กันยังไง การพัฒนาในเรื่องต่างๆ จะเป็นยังไง แค่ลองคิดเล่นๆ ผมก็เห็นภาพเลยครับ เพราะฉะนั้นเราจึงพูดได้เลยว่าหนังสือก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญกับชีวิตของมนุษย์อย่างเราๆ มากแค่ไหน
การรับพิมพ์หนังสือ
ในการสั่งพิมพ์หนังสือส่วนใหญ่มักนิยมใช้ การพิมพ์ 4 สี หรือ พิมพ์หน้าปกของหนังสือเป็น 4 สี เนื้อใน 1 สี ก็ได้ ดังนั้นการทำหนังสือไม่มีอะไรที่ตายตัวขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละคนและเรื่องของสีก็สามารถที่จะเลือกได้ว่าต้องการกี่สี และออกมาเป็นยังไง
ประเภทของหนังสือ
หนังสือมีอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น หนังสือที่ให้ความรู้โดยตรง , หนังสือที่ให้ข่าวสารบ้านเมือง , หนังสือที่ให้ความบันเทิง , หนังสือประวัติศาสตร์ และยังอีกมากมาย
ส่วนประกอบของการรับทำหนังสือ
1. หน้าปกของหนังสือ
หน้าปกของหนังสือถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของการทำหนังสือ เพราะคนส่วนใหญ่จะดูหน้าปกก่อน ถ้ายิ่งทำหน้าปกของหนังสือให้ดูโดดเด่นคนก็ยิ่งจะเข้ามาเปิดอ่านหนังสือของเรา ดังนั้นจึงต้องทำหน้าปกของหนังสือให้ดูแล้วเป็นที่น่าสนใจให้ได้มากที่สุด
2. ส่วนเนื้อในของหนังสือ
ส่วนเนื้อในก็สำคัญที่สุด ส่วนเนื้อในของหนังสือเป็นพื้นที่ที่บอกรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ ถ้าคนเปิดเข้ามาอ่านแล้วเนื้อหาด้านในไม่น่าสนใจเขาก็จะไม่อ่าน ดังนั้นการทำหนังสือต้องให้ความสำคัญกับเนื้อหามากที่สุดเพื่อทำให้หนังสือของเราน่าอ่านและน่าสนใจให้ได้มากที่สุด
3. ส่วนของสันปก
การทำหนังสือบางประเภทต้องมีสันเพื่อให้ทำการเข้าเล่มได้และยังแยกประเภทของหนังสือได้อีกด้วย
4. ส่วนของปกหลังของหนังสือ
ส่วนของปกหลังหนังสือโดยส่วนมากจะมี บาร์โค๊ต , ราคา , และการให้ความรู้เล็กๆน้อยๆ
สิ่งที่ควรมีในการทำหนังสือ
1. หน้าปก
2. คำนำ
3. สารบัญ
4. เนื้อหาของหนังสือ
5. สรุป
6. ปกหลังของหนังสือ
ขั้นตอนก่อนการพิมพ์
1. การออกแบบ
การออกแบบต้องมีการวางแผนหรือคิดก่อนที่จะลงมือทำการออกแบบ ต้องรู้ระยะห่างจากขอบงาน
2. การตรวจสอบไฟล์หลังออกแบบ
การตรวจสอบไฟล์หลังออกแบบเสร็จแล้วเพื่อไม่ให้งานผิดพลาดและยังเป็นการช่วยให้โรงพิมพ์ทำงานได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย
3. การส่งไฟล์ให้โรงพิมพ์
การส่งไฟล์งานให้กับโรงพิมพ์ ทางโรงพิมพ์จะต้องมีการตรวจสอบไฟล์อีกครั้งก่อน เพื่อให้ไฟล์สมบูรณ์ที่สุด เพื่อไม่ให้มีการแก้ไขกลับมาเพราะทางโรงพิมพ์จะไม่รับผิดชอบกับงานของคุณ
4. ขั้นตอนการออกเพลท
ในขั้นตอนนี้คนยิงเพลทต้องมีการเช็คไฟล์อีกครั้งว่ามีอะไรผิดพลาดไปไหมและหลังล้างเพลทเสร็จจะต้องตรวจสอบว่ามีอะไรผิดปกติไปอยู่ในงานไหม
ขั้นตอนการพิมพ์หนังสือ
ขั้นตอนการพิมพ์หนังสือจะต้องทำให้งานพิมพ์ออกมาแล้วถูกต้องตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด และการพิมพ์สามารถเลือกได้ว่าจะพิมพ์กี่สี ไม่ว่าจะพิมพ์ 4สี และอาจจะทำเป็นสีพิเศษก็ได้ หรือจะพิมพ์หน้าปก 4 สี เนื้อใน 1 สี ก็ได้ ดังนั้นช่างพิมพ์ต้องสามารถตัดสินใจได้ว่าควรเพิ่มหรือลดสีอะไรเพื่อให้ใกล้เคียงกับตัวอย่างที่สุด
ขั้นตอนหลังพิมพ์เสร็จ
1. ขั้นตอนการตัดซอย
2. ขั้นตอนการพับ
3. ขั้นตอนการเก็บเล่ม
4. ขั้นตอนการเข้าเล่ม
5. ขั้นตอนการแพ็คงาน
6. ขั้นตอนของการจัดส่งให้กับลูกค้า
ประเภทการเข้าเล่มทำหนังสือ
– การเข้าเล่มแบบเย็บมุงหลังคา หรือ เย็บแม็ก
เย็บมุงหลังคาหรือการเย็บแม็กเป็นวิธีที่ง่ายและใช้เวลาน้อย ราคาก็ไม่แพง ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นที่นิยม แต่ส่วนใหญ่มักนิยมใช้ทำสมุด
– การเข้าเล่มแบบไสกาว
การเข้าเล่มแบบไสกาวการเข้าเล่มที่นิยมมาก เพราะการเข้าเล่มแบบนี้ ราคาไม่สูงมากและการเข้าเล่มแบบไสกาว ถ้าจำนวนหน้าไม่เยอะเกินไป การเข้าเล่มแบบนี้ถือว่าแข็งแรงมากแล้ว
– การเข้าเล่มแบบเย็บกี่
การเข้าเล่มแบบเย็บกี่จะมีความทนทานต่อแรงกระทบถ้าเราวางหนังสือประเภทเย็บกี่ไว้เฉยๆ ยากมากๆที่หนังสือจะขาด
– การเข้าเล่มแบบใส่ห่วงกระดูกงู
การเข้าเล่มแบบใส่ห่วงกระดูกงู ต้องมีการเจาะรูกระดาษเพื่อให้ใส่ห่วงไปพอดี การใส่ห่วงก็มีหลายรูปแบบแล้วแต่ลูกค้าต้องการ อย่างเช่น 3 ข้อ 2 ช่วง, 4 ข้อ 2 ช่วง, 5 ข้อ 2 ช่วง, แต่ส่วนมากจะนิยมใช้ แบบตลอดแนวเพื่อความแข็งแรงต่อการใช้งาน
– การเข้าเล่มแบบกาวหัว
การเข้าเล่มแบบกาวหัวไม่ค่อยมีความทนทาน ส่วนเรื่องของราคาก็ไม่ค่อยแพง ส่วนใหญ่จะเป็นพวกสมุดฉีก เป็นวิธีที่ค่อยข้างง่าย
– การเข้าเล่มแบบเย็บด้าย
การเข้าเล่มแบบเย็บด้ายมักจะเป็นที่นิยมใช้กับสมุดเพราะสมุดมีจำนวนหน้าที่น้อยทำให้สามารถเย็บด้ายลงไปในกระดาษได้ง่ายและการเข้าเล่มแบบเย็บด้ายไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องจักรเพราะสามารถทำด้วยมือได้
บริการจัดส่งของเราจะส่งตามกำหนดเวลาที่ลูกค้าระบุไว้ และจัดส่งแค่กรุงเทพฯและปริมณฑลเท่านั้น (จัดส่งฟรีภายใน 30 กม. จาก บ.เอบิซ)
ลูกค้าท่านใดสนใจที่จะให้เรารับทำสติ๊กเกอร์ให้ลูกค้าคิดถึงโรงพิมพ์สติ๊กเกอร์ของเราเพราะได้ทั้งงานที่มีคุณภาพ , งานที่ถูกใจลูกค้า , และยังมีบริการจัดส่งที่รวดเร็ว ถ้าลูกค้าสนใจสามารถติดต่อเข้ามาสอบถามรายละเอียดจากโรงพิมพ์สติ๊กเกอร์ของเราได้เลยหรือจะเข้ามาหาเราที่โรงพิมพ์เลยก็ได้ เราอยู่ย่าน โรงพิมพ์พระราม 2 หรือ โรงพิมพ์สมุทรสาคร เรารับรองว่าเราจะบริการลูกค้าที่เข้ามาอย่างเต็มที่ที่สุดและจะไม่ทำให้ลูกค้าผิดหวังกับโรงพิมพ์สติ๊กเกอร์ของเรา เรายังรับทำโบรชัวร์ รับพิมพ์หนังสือ รับพิมพ์กระดาษรองจาน รับทำปฏิทิน รับทำกล่องกระดาษ รับทำการ์ดเชิญ และสิ่งพิมพ์อื่นๆ อีกมากมาย